สามารถฝากส่งผ่านร้าน Banana IT หรือ Studio 7 รวมทั้ง ผ่าน Website www.icare-delivery.com (กรณีมีรุ่นที่จะส่งใช้บริการ) ได้

1. Walk-In เข้าสามารถที่ใกล้บ้าน สามารถตรวจสอบสาขาได้ที่ www.icarecomseven.com
2. สามารถใช้บริการขนส่ง iCare Delivery ผ่าน www.icare-delivery.com

1. เครื่องที่ยังอยู่ในระยะประกัน
โดยตัวเครื่องไม่มีสภาพเสียหายที่อยู่นอกเงื่อนไขการรับประกันตัวเครื่อง ไม่มีค่าอะไหล่และค่าบริการ แต่หากเป็นการลง OS ใหม่ และซื้อเครื่องมาเกิน 3 เดือนแล้ว จะมีค่าบริการการลง OS 500 บาทสำหรับ iPhone / Watch / iPad และ 1,350 สำหรับ Macbook / iMac

2. กรณีเครื่องอยู่นอกระยะประกัน หรือ มีสภาพเสียหายที่อยู่นอกเงื่อนไขการรับประกันตัวเครื่อง
จะมีค่าบริการการพร้อมทำความสะอาดภายในตัวเครื่อง 500 บาทสำหรับ iPhone / Watch / iPad และ 1,350 สำหรับ Macbook / iMac และค่าอะไหล่ที่ระบุ ใน www.icarecomseven.com หรือสามารถสอบถามได้ ที่ Admin iCare

3. สำหรับ iCare-Delivery
จะมีการแจ้งราคาโดยประมาณตามรุ่นที่ลุกค้าได้ระบุหน้าเว็บ แต่อาจมีราคาเปลี่ยนแปลง เมื่อเครื่องได้ถูกส่งถึงศูนย์บริการและได้รับการตรวจสอบซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่โทรแจ้งลูกค้าในภายหลัง

เป็นการรับประกันแบบจำกัดความรับผิดชอบ โดยปกติจาก Apple ซึ่งตามปกติ จะมีระยะความคุ้มครองอยุ่ที่ 1 ปี โดยเป็นการรับประกันว่า สินค้าที่ซื้อ จะสามารถใช้งานได้ทุกฟังก์ชัน ที่ตัวสินค้านั้นๆ ได้นำเสนอเอาไว้ โดยมีข้อจำกัดว่า สภาพตัวเครื่องจะต้องไม่มีความเสียหาย อย่างเช่น มีรอยกระแทก แตกหัก ฉีกขาด หักออก หรือสัมผัสโดนของเหลว ขึ้นสนิม เครื่องงอ มีรอยงัดแงะ พบชิ้นส่วนถูกดัดแปลงแก้ไข น็อตยึดฝาเครื่องหรือจอเสียหายไม่ สามารถแกะเครื่องได้ ชิ้นส่วนสำคัญสูญหาย ฯลฯ

หากผู้ใช้งานพบปัญหาฟังก์ชันตัวเครื่องใดๆ ทำงานไม่ปกติ และไม่มีสภาพเสียหาย จะให้บริการโดยการเปลี่ยนอุปกรณ์หรืออะไหล่ที่จะแก้ไขให้ฟังก์ชันนั้นๆ สามารถทำงานได้เป็นปกติ

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.apple.com/th/legal/warranty

iPhone ตั้งแต่รุ่น 7 และ iPad ตั้งแต่รุ่น iPad 5th Gen ส่วนผลิตภัฑณ์อื่นๆ จะมีการเพิ่มเติมให้อนาคต และอาจมีการเปลี่ยนแปลงรุ่นที่สามารถให้บริการได้ ซึ่งต้องลองตรวจสอบใน Website www.icare-delivery.com

การส่งผ่าน iCare Delivery จะได้รับคืนเครื่องเร็วกว่าและลูกค้าไม่ต้องเดินทางเนื่องจากจะเป็นการนัดขนส่งเข้าไปรับ-ส่งตามที่อยู่ที่ลูกค้าระบุ แต่มีข้อจำกัดเรื่อง ผลิตภัณฑ์ที่สามารถลงทะเบียนใน iCare Delivery ไม่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทุกรุ่น สามารถรับบริการได้ตามรุ่นที่มีระบุอยู่ใน iCare Delivery เท่านั้น ซึ่งจะมีการ Update รุ่นใหม่ๆที่สามารถใช้บริการได้ ในอนาคต การฝากส่งเคลมผ่านหน้าร้านขาย จะใช้เวลาเพิ่มเติมมากกว่าบ้าง เนื่องจากจะเป็นการลงทะเบียนฝากส่งอีกทอด แต่จะครอบคลุมผลิตภัณฑ์มากกว่าใน iCare Delivery

สำหรับ iPhone ที่มีอาการค้าง จำเป็นต้องมีเครื่อง mac หรือ PC windows(ที่ติดตั้งiTunes) เพิ่ม สามารถทำตามคำแนะนำใน support.apple.com/th-th/HT201412 โดยสามารถดูวิดีโอตัวอย่างได้ทาง www.youtube.com/watch?v=2CRilTPouRU&t=81s&ab_channel=AppleSupport

การส่งผ่าน iCare Delivery จะได้รับคืนเครื่องเร็วกว่าและลูกค้าไม่ต้องเดินทางเนื่องจากจะเป็นการนัดขนส่งเข้าไปรับ-ส่งตามที่อยู่ที่ลูกค้าระบุ แต่มีข้อจำกัดเรื่อง ผลิตภัณฑ์ที่สามารถลงทะเบียนใน iCare Delivery ไม่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทุกรุ่น สามารถรับบริการได้ตามรุ่นที่มีระบุอยู่ใน iCare Delivery เท่านั้น ซึ่งจะมีการ Update รุ่นใหม่ๆที่สามารถใช้บริการได้ ในอนาคต การฝากส่งเคลมผ่านหน้าร้านขาย จะใช้เวลาเพิ่มเติมมากกว่าบ้าง เนื่องจากจะเป็นการลงทะเบียนฝากส่งอีกทอด แต่จะครอบคลุมผลิตภัณฑ์มากกว่าใน iCare Delivery

ทำการติดต่อ Apple Care Callcenter ที่หมายเลข 1800-019-900 (Toll Free) โดยต้องเตรียม serial/IMIE ตัวเครื่อง พร้อมใบเสร็จซื้อเครื่อง และ e-mail ที่ติดต่อได้ เพื่อให้ทาง Apple ตรวจสอบยืนยันความเป็นเจ้าของและตอบกลับผ่าน E-Mail หรือหากสามารถเข้าอ่าน E-Mail ของ Apple ID ได้ สามารถทำตามขั้นตอนในวิดีโอตัวอย่างทาง www.youtube.com/watch?v=LIOapHreNe4&ab_channel=AppleSupport

หากลืมรหัส Passcode แต่ยังจำ Apple ID ที่ล็อคอินกับตัวเครื่องได้ ต้องทำการ Restore เท่านั้น เพื่อให้เครื่องสามารถใช้งานได้ แต่ข้อมูลทุกอย่าง จำเป็นต้องถูกลบในขั้นตอนของการ Restore และจะมีการให้ใส่ Apple ID Password หลังจาก Restore แล้ว เพื่อใช้งานตัวเครื่อง โดยสามารถดูวิดีโอ ตัวอย่างได้ทาง www.youtube.com/watch?v=7s8-zLG9ySQ&t=146s&ab_channel=AppleSupport

สำหรับ Macbook / iMac สามารถทำตามคำแนะนำใน support.apple.com/th-th/HT204904 โดยสามารถดูวิดีโอตัวอย่างได้ทาง www.youtube.com/watch?v=HCrl_4k0aqo&ab_channel=AppleSupport

สำหรับ iPhone / iPad ที่ยังเปิดใช้งานได้ สามารถทำตามคำแนะนำใน support.apple.com/th-th/HT201252 โดยสามารถดูวิดีโอตัวอย่างได้ทาง www.youtube.com/watch?v=7s8-zLG9ySQ&t=146s&ab_channel=AppleSupport

สามารถทำได้ตามขั้นตอนที่ Apple ให้รายละเอียดไว้ใน support.apple.com/th-th/guide/iphone/iph339bafff3/ios โดยสามารถดูวิดีโอตัวอย่างได้ทาง www.youtube.com/watch?v=wqSZDKLbdoA&ab_channel=AppleSupport

สามารถทำได้ตามขั้นตอนที่ Apple ให้รายละเอียดไว้ใน support.apple.com/th-th/HT210515 โดยสามารถดูวิดีโอตัวอย่างได้ทาง www.youtube.com/watch?v=qj9ORN8IXXk&ab_channel=AppleSupport

สามารถทำได้ตามขั้นตอนที่ Apple ให้รายละเอียดไว้ใน support.apple.com/th-th/guide/icloud/mmdc23b125f6/icloud โดยสามารถดูวิดีโอตัวอย่างได้ทาง www.youtube.com/watch?v=pmrL68GqcWw&ab_channel=AppleSupport

สามารถทำได้ตามขั้นตอนที่ Apple ให้รายละเอียดไว้ใน support.apple.com/th-th/guide/iphone/iph3ecf67d29/ios โดยสามารถดูวิดีโอตัวอย่างได้ทาง www.youtube.com/watch?v=A8e4WrVZkKo&ab_channel=AppleSupport

สามารถทำได้ตามขั้นตอนที่ Apple ให้รายละเอียดไว้ใน support.apple.com/th-th/HT204204 โดยสามารถดูวิดีโอตัวอย่างได้ทาง www.youtube.com/watch?v=1FcE86kwODQ&ab_channel=AppleSupport

สามารถติดต่อ Apple Care Callcenter ที่หมายเลข 1800-019-900 (Toll Free) เพื่อให้ตรวจสอบพื้นที่ให้บริการ

ไม่มีเปลี่ยนแยก ต้องเปลี่ยนทั้งตัวเครื่องเท่านั้น เนื่องจาก Apple ได้ออกแบบ อุปกรณ์ภายในต่างๆทั้งสายเคเบิล แผงวงจร ให้ติดอยู่ภายใน เครื่องอย่างเหมาะสม หากมีการแก้ไขเปลี่ยนอุปกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่งในเครื่อง อาจส่งผลกระทบให้อุปกรณ์ตัวอื่นๆ ทำงานไม่ปกติได้ ดังนั้น หากเครื่องมีปัญหาทำงานไม่ปกติ หรือมีสภาพเสียหายใดๆ จะต้องเปลี่ยนทั้งตัวเครื่องเท่านั้น

หากงอโดยตัว Body ไม่มีรอยฉีกขาด สามารถเข้าใช้บริการได้ แต่จะเป็นเรื่องของสภาพสินค้าเสียหายผิดรูป ซึ่งจะมีการเสนอค่า Exchange ตัวเครื่อง

iPhone ตั้งแต่รุ่น 7 ขึ้นมา สามารถให้บริการระหว่างประเทศได้ แต่ Model รุ่นที่ลูกค้าจะได้รับหากการแก้ไขปัญหาต้องเปลี่ยนเครื่องนั้น จะได้ รับเป็น Model ที่ใช้ภายในประเทศที่ลูกค้าส่งเข้าใช้บริการ ตัวอย่างเช่น หากลูกค้าซื้อเครื่องจาก ประเทศอเมริกาจะเป็นรุ่นที่ไม่มี ถาด Physical Sim เพราะเป็นรุ่นที่เป็น 2 E-Sim เท่านั้น ซึ่งประเทศไทยเป็นรุ่นที่ มี 1 ถาด Phisical Sim และ 1 E-Sim ซึ่งหากได้รับการเปลี่ยนไปและกลับไปใช้ในประเทศอเมริกา จะใช้ได้แค่ 1 E-Sim

สามารถให้บริการได้ โดยไม่มีค่าอะไหล่เปลี่ยนกล้อง หากเครื่องยังอยู่ในระยะประกัน และไม่มีสภาพความเสียหาย ทั้งนี้ต้องให้ช่างเทคนิคตรวจ สอบก่อนว่า เป็นฝุ่นภายในกล้อง หรือ กล้องเสียหาย หากตรวจพบว่ากล้องมีความสายหาย จะมีการเสนอราคาค่า Exchange

ปัจจุบันยังสามารถให้บริการระหว่างประเทศได้ตามปกติ ยังไม่มีข้อจำกัดทางด้าน Model รุ่นต่างๆ

สามารถใช้บริการได้ แต่หากการแก้ไขปัญหาจำเป็นต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ จอภาพ หรือ แบตเตอรี่ ที่ได้มีการเปลี่ยนมา จำเป็นต้องเสนอราคา Exchange จอภาพ หรือ แบตเตอรี่ ในการเปลี่ยน

ตามปกติ เครื่องที่ Apple ได้มีการจำหน่ายให้กับลูกค้าที่เป็นเครื่อง refurbished จะมีระยะประกันตามที่ Apple ได้ระบุในการขาย ซึ่งถ้ายังมีประกันคงเหลือ ให้ลองส่งตรวจสอบที่ iCare เป็นรายเครื่องไป

เครื่องที่ลูกค้าได้รับการเปลี่ยนจะเป็นเครื่องที่ผลิตออกมาแบบเครื่องที่บรรจุกล่องขายหน้าร้าน แต่ถูกเก็บแยกไว้สำหรับส่วนของการ Service แตกต่างกันแค่ไม่ได้บรรจุลงกล่องขาย

1. กรณีเครื่อง iPhone เปลี่ยน Battery หรือ หน้าจอ หรือ เป็นอุปกรณ์ที่สามารถเปลี่ยนได้ หากทางร้านที่ลูกค้าเข้าไปใช้บริการมีอะไหล่อยู่จะสามารถรับคืนเครื่องเดิมได้ใน 1-2 ชั่วโมง หลังจากได้มีการส่งเครื่องให้เจ้าหน้าที่

2. กรณีเครื่อง iPhone มีอาการเสียที่ไม่สามารถเปลี่ยนอะไหล่ได้ หรืออะไหล่หมด จะใช้เวลาในการสั่งอะไหล่ หรือเปลี่ยนเครื่อง(ขึ้นอยู่กับกรณี ไม่สามารถเลือกได้ว่าต้องเปลี่ยนเครื่องหรือเปลี่ยนอะไหล่) จะใช้เวลา ประมาณ 5-7 วันทำการ(ไม่นับรวมเสาร์-อาทิตย์)

3. กรณีเป็น อุปกรณ์เสริม Watch/Pencil/AirPods/สายชาร์ท/อแดปเตอร์ โดยปกติใช้เวลา 5-7 วันทำการ(ไม่นับรวมเสาร์-อาทิตย์) ในการตรวจสอบและสั่งรอของใหม่มาเปลี่ยนให้ลูกค้า

4. ในกรณีเป็นเครื่อง Macbook / iMac จะใช้เวลาในการตรวจสอบอาการเสียจนถึงเปลี่ยนอะไหล่ที่จำเป็นประมาณ 7-10 วันทำการ (ไม่รวมเสาร์-อาทิตย์)